วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2557

ไปดูเขาก่อเจดีย์ทรายที่วัดบ้านใจดี วันสงกรานต์ ปี 2557

               หลังจากกลับจากบ้านจอยแคร์ก็เดินทางไปอีกหลายวัดเลยค่ะ ทั้งวัดเขียน วัดสำโรงสูง วัดบ้านชำแระ วัดบ้านบิง วัดบ้านดองกำเม็ด และสุดท้าย วัดบ้านใจดี จุดประสงค์หลักของการไปครั้งนี้คือการไปดูเขาก่อเจดีย์ทรายค่ะ

วัดบ้านใจดี

การเดินทางจากศรีแยกไฟแดงกลางเมืองขุขันธ์ ขับรถไปบนถนนไกรภักดี ถนนหมายเลข 2201 มุ่งหน้าไปทิศตะวันตก ขับรถไปประมาณ 3 กิโลเมตร จะถึงสามแยกบ้านแทรง ให้เลี้ยวขวา ขับรถตรงไปเรื่อยๆ เข้าไปในหมู่บ้านใจดี ตรงไปตลอดทาง สุดทางเป็นทุ่งนา ให้เลี้ยงขวาอีกที จะพบประตูวัดค่ะ ระยะทางจากสามแยกบ้านแทรง ประมาณ 4 กิโลเมตรค่ะ

จากภาพ จุดเริ่มต้น คือ สี่แยกไฟแดงกลางอำเภอขุขันธ์, จุดหมาย คือ วัดบ้านใจดี
 (ถ้าค้นจาก https://maps.google.co.th พิกัดจุดเริ่มต้น คือ 14.715151,104.199493 และ พิกัดจุดหมาย คือ วัดบ้านใจดี)

 ลานกิจกรรมวัดบ้านใจดี + โบสถ์ + ประตูหลังวัด

 ตอนนี้คนที่นี่กำลังเริ่มก่อเจดีย์ทรายค่ะ
 
 ชาวบ้านกำลังเริ่มก่อเจดีย์ทราย

ชาวบ้านกำลังเริ่มก่อเจดีย์ทราย

ผู้ใหญ่ก็เตรียมดินไป ส่วนเด็กๆ สาวๆ ก็พากันหาดอกไม้มาสมทบด้วยค่ะ

 ชาวบ้านช่วยกันหาดอกไม้มาไว้ประดับเจดีย์

 แคร์เองก็ได้เก็บดอกไม้ไปช่วยประดับเจดีด้วยเหมือนกันค่ะ

 แคร์เก็บดอกไม้ไปช่วยประดับเจดีย์ + นำดอกไม้ที่เตรียมมาไปสมทบกับของชาวบ้านใจดี

เวลาผ่านไป ชาวบ้านก็เริ่มมากันมากขึ้น ในการก่อเจดีย์ทรายขนาดใหญ่ต้องใช้แรงเยอะ หน้าที่นี้จึงเป็นหน้าที่ของผู้ชายไป ส่วนผู้หญิงก็รับหน้าที่ในการจัดเตรียมดอกไม้ค่ะ

คนเริ่มมาที่วัดมากขึ้น

 บรรดาผู้ชายในหมู่บ้านร่วมแรงกันขึ้นรูปเจดีย์ทราย

 เจดีย์ขึ้นรูปสำเร็จแล้ว ชาวบ้านก็พากันขึ้นรถไปเก็บดอกไม้มาใช้ประดับเจดีย์ เหลือเพียงบางคนที่ช่วยเก็บรายละเอียดของเจดีย์ค่ะ

ผู้หญิงกำลังเตรียมดอกไม้ไว้สำหรับประดับเจดีย์ 

 เจดีย์นี้มีการนำดอกไม้มาประดับแล้วค่ะ

 เจดีย์นี้กำลังขึ้นลาย วางแผนว่าจะประดับดอกไม้ไว้ตรงไหนบ้าง

ชาวบ้านบางส่วนก็ช่วยกันปัดน้ำและโคลนออกจากเจดีย์ + ในขณะที่มีการเริ่มประดับดอกไม้ที่ยอดของเจย์ดีแล้วค่ะ

พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่เช้าบ้านก็ยังช่วยกันก่อเจดีทรายกับอย่างแข็งขัน

 ชาวบ้านช่วยกันประดับดอกไม้บนเจดีย์ทราย

 ชาวบ้านช่วยกันประดับดอกไม้บนเจดีย์ทราย

               สมัยก่อนตอนที่แคร์ยังเด็กมากๆ ตอนนั้นที่วัดเขียนยังมีต้นมะม่วงต้นใหญ่อยู่เลยค่ะ ในวัดไม่ร้อนเพราะมีต้นไม้ใหญ่อยู่เยอะ มีลานดินใต้ต้นมะม่วง เป็นลานใช้ทำกิจกรรมต่างๆได้ สมัยนั้นในวัดจะจัดกิจกรรมวันสงกรานต์ใหญ่โต ผู้คนเข้าวัดกันมากมาย ช่วงเช้าไปสรงน้ำพระ และนำพระพุทธรูปที่บ้านไปสรงน้ำที่วัด พอช่วงบ่ายก็ตักดินที่บ้านใส่ครุไปรวมกันกับคนอื่นๆ ที่เตรียมดินมาเช่นกัน จากนั้นก็ทำการก่อเจดีย์ทรายเป็นรูปเจดีย์บ้าง รูปสัตว์บ้าง มีการประดับดอกไม้ แล้วปักธง ปักธูป ปักเทียน สร้างความสนุกสนานแก่บรรดาเด็กๆและผู้ร่วมกิจกรรม บรรยากาศวันสงกรานต์สมัยนั้นสนุกมากค่ะ บางปีจะมีฉายหนังกางแปงด้วย เป็นความรู้สึกตื่นเต้นแบบเด็กๆ แคร์โชคดีที่ได้มีโอกาสเห็นภาพบรรยากาศเช่นนั้น ถึงตอนนี้แคร์อายุ 24 ปีแล้ว บางคนอายุเท่ากันหรือคนอายุมากกว่าแคร์บางคน ยังไม่เคยเห็นภาพบรรยากาศเช่นนั้นเลย ปีนี้รู้สึกตัวเองแก่ขึ้นหรือเปล่าไม่รู้นะคะ ดูโหยหาอดีตจัง แคร์เลยขับรถไปดูหลายที่เพื่อเก็บภาพบรรยากาศเช่นนี้มาฝากแฟนๆ บล็อกแคร์ จากการสังเกตหลายวัดที่แคร์ไป ด้วยยุค สมัย และวิถีชีวิตของคนที่เปลี่ยนไป ทำให้ประเพณีเช่นนี้ มีการเปลี่ยนแปลงไปบาง ตามยุค ตามสมัย และวิถีชีวิตของคนที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

* การที่ต้องมีการขนทรายเข้าวัด เพราะมีความเชื่อว่า เมื่อเราเข้าวัดแล้วเดินออกจากวัดมา เท้าของเราได้เหยียบเอาดินของวัดติดรองเท้าออกมาด้วย  จึงต้องมีการนำทรายไปคืนที่วัดในเทศการนี้นี่เองค่ะ 

บรรยากาศวันสงกรานต์บ้านใครเป็นยังไงกันบ้าง comment มาเล่าสู่ฟังบ้างนะคะ ^ ^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น